วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก และที่ผ่านมาการดำเนินงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นรูปแบบลักษณะดำเนินงานตามกลุ่มเทคโนโลยี จึงทำให้บทบาทของการพัฒนาวิทยาศาสตร์ไทยไม่โดดเด่น

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะเร่งผลักดันแผนงานทั้ง 47 แผนงาน เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน สามารถแข่งขัน และพร้อมรับมือกับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือASEAN Economics Community(AEC) ใน ค.ศ. 2015 หรือ พ.ศ. 2558 หรือในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้อย่างแท้จริง”

เพื่อให้งานทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปผสมผสานกับงานด้านเศรษฐกิจทั้งหมด ได้ให้นโยบายและแนวทางการดำเนินงานว่าจะดำเนินการในลักษณะ Project – based โดยในหนึ่งแผนงานจะต้องมีทุกกระทรวง ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนเข้ามาร่วมในการขับเคลื่อน ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นเจ้าภาพหลักในการบูรณาการร่วมกันระหว่างทุกกระทรวง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยังได้สร้างกลไกให้มีผู้แทนของแต่ละแผนงานมาทำหน้าที่เป็นผู้ขับเคลื่อนตามแนวทาง 5 กลุ่มงาน โดยจัดการตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ หรือ ตั้งแต่การผลิตวัตถุดิบ การออกแบบ การแปรรูป และการส่งออกสู่ตลาดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม (value chain) ทั้งนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้ดำเนินการนำร่องแล้วทั้งหมด 47 แผนงานโดยแบ่งเป็น 5 กลุ่ม ดังนี้

1. วิทยาศาสตร์เพื่อสร้างงาน เช่น เทคโนโลยีการเกษตร การผลิตพันธุ์พืช การเพาะปลูก เป็นต้น โดยจะมีแผนงาน เช่น แผนงานข้าว แผนงานยาง แผนงานข้าวโพด และแผนงานปาล์ม เป็นต้น รวม 13 แผนงาน

2. วิทยาศาสตร์เพื่อสร้างรายได้ จะเน้นที่การสร้างรายได้หรือเพิ่มมูลค่า เช่น แผนงานเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ SMEs ด้วยเทคโนโลยีซอฟแวร์ และสารสนเทศดิจิตอล แผนงานยกระดับอุตสาหกรรมไทยเพื่อรองรับการผลิตชิ้นส่วนรถไฟและระบบราง รวม 13 แผนงาน

3. วิทยาศาสตร์เพื่อสร้างชีวิต เกี่ยวกับสุขภาพของคน เพื่อตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุในอนาคต เช่น แผนงานนวัตกรรมเพื่อช่วยเหลือคนพิการและผู้สูงอายุที่เหมาะสมกับคนไทย แผนงานนวัตกรรมการผลิตเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์จากงานวิจัยของประเทศไทย รวม 4 แผนงาน

4. วิทยาศาสตร์เพื่อสร้างอนาคต คือการพัฒนาไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยี ในอนาคต เช่น แผนงานภูมิสารสนเทศกลางของประเทศเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการนำไปใช้ประโยชน์ด้านการเกษตร อุตสาหกรรม ความมั่นคง และการจัดเก็บภาษีท้องถิ่น อาทิ แผนงานความหลากหลายทางชีวภาพ : การใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์และผลิตภัณฑ์ แผนงานขยายการผลิตสาหร่ายเป็นอุตสาหกรรมพลังงานและอาหาร รวม 14 แผนงาน

5. วิทยาศาสตร์เพื่อสร้างฐานความรู้ โดยดำเนินการร่วมกับนโยบาย Talent Mobility จากการใช้ประโยชน์จากกำลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมีโครงการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมกับเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและบริการด้วยนโยบายการใช้ประโยชน์จากอุทยานวิทยาศาสตร์ (Regional Science Parks) ในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของภาคธุรกิจอุตสาหกรรมในภูมิภาค

วิทยาศาสตร์ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในประเทศให้ดีขึ้น

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวพันกับมนุษย์และสังคมอย่างแน่นแฟ้น

การพิจารณาเรื่องเป้าหมายและปัจจัยในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาจช่วยให้ไม่ลืมว่าการพัฒนามิใช่เป้าหมายของตัวเองแต่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเป้าหมายของสังคมโดยส่วนรวม ดังนั้นจึงสมควรอย่างยิ่งที่ทุกคนในสังคมควรจะมีความรู้สึกเกี่ยวกับปัญหาทั้งในแง่ผู้ที่จะมีบทบาทเสริมสร้างและผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากการพัฒนานั้น การพัฒนาสังคมในด้านใดๆย่อมต้องการความเข้าใจและความร่วมมือจากสมาชิกในสังคมฉันใด การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจึงจะพัฒนาได้ตามเป้าประสงค์

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่กำลังพัฒนา

เพื่อไปสู่ประเทศที่พัฒนาด้านอุตสาหกรรม ส่วนประเทศที่พัฒนาแล้วกำลังจะปรับเปลี่ยนไปสู่สังคมดิจิตอลไปแล้ว เท่ากับว่าประเทศเหล่านี้ก็หนีไปจากเราอีกหนึ่งขั้น เมื่อรู้แล้วผู้นำประเทศของเราใช้เวลา 4 ปีในการบริหารประเทศได้พยายามปรับเปลี่ยนการบริหารงานราชการแผ่นดินให้เป็นรัฐบาลดิจิตอลโดยเน้นให้ประชาชนได้รับข้อมูล ข่าวสารมากขึ้น และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตโดยอาศัยความรู้ความเข้าใจวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นตัวขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม พัฒนาอย่างเป็นระบบและยั่งยืน

ในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนจำเป็นต้องใช้องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งและเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิต และการอยู่ดีกินดีของประชาชนในประเทศในระยะยาว วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความเกี่ยวข้องกับมนุษย์ในทุกๆเรื่องตั้งแต่การดำรงชีวิตประจำวัน การพัฒนาชุมชนของตนเอง ตลอดจนการพัฒนาประเทศ

การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

1. การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คือการพัฒนาคนในชาติให้มีความรู้ ความคิด และความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่ประเทศพึ่งตนเองได้
2. การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจำเป็นต้องพัฒนาทุกองค์ประกอบของระบบวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอัน
3. การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศที่กำลังพัฒนาอาศัยเทคโนโลยีจากต่างประเทศเป็นต้นแบบ นำมาวิเคราะห์โดยมีการแก้ไขดัดแปลงที่จำเป็นเพื่อให้พึ่งตนเองได้เมื่อมีความต้องการเทคโนโลยีนั้นอีก
4. ส่งเสริมให้มีการใช้เทคโนโลยีในรูปแบบของเครื่องกลและผลิตผลจากเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มผลผลิตหรือลดต้นทุนการผลิตหรือยกระดับมาตรฐานการดำรงชีพไม่ใช่การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแต่เป็นเพียงมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเท่านั้น
5. การถ่ายทอดเทคโนโลยีมิใช่การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเทคโนโลยี แต่เป็นการถ่ายทอดความรู้จากผู้หนึ่งหรือองค์กรหนึ่งไปยังอีกผู้หนึ่งหรืออีกองค์กรหนึ่ง

ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ปัจจัยที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศและพัฒนาคุณภาพชีวิตไปสู่การกินดีอยู่ดีของประชากรโดยส่วนรวมนั้น คือ การมีฐานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เข้มแข็ง มีการนำเทคโนโลยีไปใช้ในการดำเนินชีวิต เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และสังคม ทั้งนี้ถึงแม้ว่าการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะก้าวล้ำเพียงใดก็ตาม หากไม่เรียนรู้ควบคู่กับคุณธรรม จริยธรรม และคุณค่าของวัฒนธรรมในสังคมของตนเองแล้ว ย่อมส่งผลให้คนในสังคมขาดสมดุล ดังนั้นการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคู่กับการพัฒนาทางด้านสังคมแบบบูรณาการร่วมกันแล้วย่อมส่งผลให้คุณภาพชีวิตของคนในสังคมนั้นๆพัฒนาไปอย่างยั่งยืน

โปรโมทธุรกิจออนไลน์ ให้เป็นที่รู้จักผ่าน Google Adwords

Adwords1

ธุรกิจที่นับได้ว่าเป็นธุรกิจที่กำลังมาแรงในขณะนี้ก็คือธุรกิจออนไลน์ เนื่องจากความสะดวกสบาย และไม่ต้องลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มาก ตรงเป้าหมาย เหล่านี้เองคือตัวอย่างของข้อดีของการทำธุรกิจออนไลน์ และหากเรามีธุรกิจออนไลน์สักหนึ่งธุรกิจแล้ว เราจะทำให้คนเห็น หรือ รู้จักธุรกิจของเราได้อย่างไร วันนี้ ผมจะมาแนะนำการโปรโมทธุรกิจของท่านโดยใช้บริการของทาง Google ที่เรียกว่า Google Adwords ซึ่งจะสามารถเพิ่มช่องทางการเข้าสู่เว็บไซด์ของท่าน และยังทำให้ธุรกิจของท่านได้รับความนิยมในเวลาอันสั้นอีกด้วย

การตลาดออนไลน์ลงโฆษณา Google Adwords

marketing google adword ท่านอาจจะเคยได้ยินคำว่า Google Adwords มาบ้าง แต่สำหรับท่านที่ยังไม่รู้จักจะอธิบายให้ฟังGoogle Adwords คือบริการของทาง Search Engine ชื่อดังอย่าง Google.com ที่เปิดให้บุคคลธรรมดาอย่างพวกเราที่มีธุรกิจสามารถทำการโฆษณากับทาง Google ได้ โดยท่านสามารถกำหนดงบประมาณของการโฆษณาได้ โดยทาง Google Adwords จะคิดค่าลงโฆษณาเป็นคลิก เช่น คลิกละ 0.05 ดอลล่า เป็นต้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นราคาต่อคลิกที่ท่านต้องจ่ายนั้นจะแตกต่างกันไปตาม Keyword ที่ท่านเลือกมาทำการตลาด หาก Keyword มีการแข่งขันสูง ท่านก็ต้องประมูลราคา Keyword ที่สูงขึ้นด้วย แต่ Google มีวิธีในการคำนวณราคาต่อคลิกที่ดี ในกรณีที่โฆษณาของท่านมีคุณภาพ ทาง Google จะลดราคาต่อคลิกลง แม้ท่านจะตั้งไว้สูงก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความว่าท่านจะต้องจ่ายตามที่ท่านตั้งไว้เสมอไป

เราลองมาดูตัวอย่างสักอันหนึ่งดีกว่า หากท่านมีเว็บไซด์ ที่เกี่ยวกับสุขภาพ ความสวย ความงาม การดูแลผิวพรรณ ท่านอาจจะเลือกใช้ Keyword ว่า “การดูแลสุขภาพ” หลังจากนั้นท่านก็เข้าไปเขียนข้อความโฆษณาใน Google Adwords Account ของท่าน (จำนวนตัวอักษรที่ท่านสามารถเขียนได้ ท่านสามารถดูรายละเอียดได้จากบัญชี Google Adwords ของท่าน) และเพียงไม่กี่นาที ข้อความโฆษณาของท่านจะออกสู่สายตาชาวโลก หลังจากนั้นหากมีคนคลิกที่โฆษณาของท่าน ท่านก็ต้องเสียเงิน แต่หากไม่มีการคลิกเกิดขึ้นท่านก็ไม่ต้องเสีย